"ไม่รู้สิ ผมไม่อยากคิดถึงมัน" นักข่าวหนุ่ม Thomas Sheridan ตอบ
"ทำไมละ?"
"ไม่รู้สิ พอคิดแล้วมันขนลุก มันน่ากลัว
"ดีใจได้เลยเพราะ...คุณก็เหมือนชาวอเมริกันทั่วไป คุณเชอริดาน ประมาณ 82.3% ของชาวอเมริกันตอบเหมิอนอย่างที่คุณตอบ พอคิดแล้วมันน่ากลัว น่าขนลุก พูดถึงแล้วมันเสียขวัญ ผมว่าคุณจะสนใจสถิตินี้...
ในขณะที่ 82.3% ของผู้คนพบว่าเรื่องผีนั้นน่าสะพรึงกลัวและไม่เชื่อเรื่องผี
95% เชื่อในพระผู้เป็นเจ้า
91.5% เชื่อในการเกิดใหม่
72% เชื่อในเทวดาหรือผู้คุ้มครองทางวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็นบรรพบุรุษหรือเทวดาองค์รักษ์
และ 36.7% เชื่อ.... ขอย้ำนะครับ.... "เชื่อ"ว่าพวกเขาเคยเจอผี ไม่ว่าจะเป็นคนรักเก่าที่จากไปหรือได้ยินเสียงแว่ว ได้กลิ่้น เห็นสัญลักษณ์ สัญญาณจากคนตาย หรือเห็นผีเป็นตัวเป็นตน
นั่นมันมากกว่าหนึ่งในสามของประชากรของสหรัฐฯเสียอีกนะที่ยอมรับว่า พวกเขาเคยเจอผี พวกเขาไม่ใช่พวกคลั่งเรื่องเหนือธรรมชาติจากโลกที่สามนะ... นี่คือชาวอเมริกัน ศูนย์รวมแห่งเหล่าผู้ช่างสงสัย ศูนย์รวมแห่งเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ Internet การค้นคว้าของพวกเราพบว่าสถิติที่กล่าวไว้นั้นมันแกว่งขึ้นลงไม่เกิน 5% เลยไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนในโลกก็ตาม"
เวลาฆาตกรโรคจิตสังหารหมู่บอกว่าหมาตัวนึงสั่งให้เขาฆ่าคน ก็ไม่มีการสืบสวนหา"ความเป็นไปได้"เลยว่าหาหรือคนๆนั้นได้ถูกสิ่งเหนือธรรมชาติเข้าสิงสู่จริงหรือไม่ สื่อจะพาดหัวว่าเขาเป็นคนบ้า เสียสติ วิกลจริต จับเขายัดเข้ากรงแล้วโยนกุญแจทิ้งไป สังคมพอใจแค่นั้น มันเป็นคนบ้า แล้วมันก็ถูกขังกรงไปแล้ว ทุกคนถอนหายใจผ่อนคลาย แต่ใช่หรอ? ถ้าสมมติว่าเขาถูกสิงจริงๆละ ไอ้สิ่งนั้นมันควบคุมจิตใจเขาและมันยังอยู่ข้างนอกนั่น!"
"คุณจะบอกผมว่า Son of Sam เป็นผู้บริสุทธ์หรอ?"
คำเตือน!
ความรุนแรงและเรื่องเหนือธรรมชาติ
ในโลกนวนิยายของ Beyond the Supernatural นี้ประกอบไปด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเหนือธรรมชาติ พลังจิต เวทย์มนต์ สัตว์ประหลาด ปีศาจ ภูติผี วิญญาณอันชั่วร้าย ทฤษฎีสมคบคิด ปาฎิหารย์ ความวิกลจริคและความรุนแรง ผู้ปกครองบางท่านอาจพบว่าความรุนแรง เวทย์มนต์และองค์ประกอบเหนือธรรมชาติทั้งหลายในเกมนั้นไม่เหมาะสมกับผู้อ่านหรือผู้เล่นวัยเยาว์ นอกจากนั้น ความสมจริงภายในเนื้อหาของนวนิยายที่นำเสนออาจก่อให้เกิดความไม่สงบกับผู้อ่านวัยเยาว์ได้ พวกเราขอแนะนำให้ผู้ปกครองใช้ดุลยพินิจกับหนังสือเล่มนี้ โปรดทราบว่าไม่มีผู้ใดในสำนักพิมพ์ Palladium Books ที่ยินยอมหรือสนับสนุนศาสตร์เร้นลับ การฝึกฝนเวทย์มนต์ การใช้ยาเสพติด การใช้ศาลเตี้ยหรือความรุนแรง
ไม่มีใครมองเห็นปีศาจร้ายที่เข้าสิงร่างของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจนต้องเสียสติ
ไม่มีใครเห็นอำนาจความชั่วร้ายที่อยู่เบื้องหลังการกระทำอันรุนแรงหรือต่ำช้า
ไม่มีผีแอบอยู่ใต้เตียง
วิทยาศาสตร์และความเชื่ออันดื้อรั้นของพวกเราฆ่าพวกมันตายหมดแล้ว ไม่มีวิญญาณหลอนตามตรอกมืดๆ ไม่มีผีสิงอยู่ในบ้านร้าง วิทยาศาสตร์ประกาศแล้วว่าผีสาง ปีศาจ สัตว์ประหลาด ทวยเทพโบราณนั้นเป็นเรื่องเพ้อฝันที่หลอกเด็ก แล้วพวกเราก็เชื่อกันเสียจนสนิทใจ
ความเชื่อในทางไสยศาสตร์ได้ถูกลบล้างหายไป ความหวาดกลัวต่อสิ่งที่พวกเราไม่รู้ก็หายไปด้วย ความมืดไม่ได้กุมความลับอันชั่วร้ายหรือเป็นที่หลบซ่อนของปีศาจแห่งฝันร้ายอีกต่อไป
ถ้ามันพิสูจน์ไม่ได้ ทำให้เกิดซ้ำในห้องแล็บไม่ได้ มันไม่มีอยู่จริง
นี่คือข้อเรียกร้องที่ดื้อรั้นแน่วแน่ของวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ประกาศว่าเวทย์มนต์นั้นเป็นไปไม่ได้ ไม่มีเหตุผล ไร้สาระ ปรากฎการณ์พลังจิตไม่สามารถพิสูจน์ได้ มันย่อมเป็นเรื่องโกหก ทุกป้ายฉลาก ชนิด ประเภท ทฤษฎีที่วิทยาศาสตร์มอบให้แก่พวกเรา ต่อให้คำอธิบายนั้นจะขัดกับสิ่งที่พวกเราได้เห็นมากับตา พวกเราก็ยอมรับมัน แล้วถ้าวิทยาศาสตร์นั้นผิดละ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวิทยาศาสตร์เขียนประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่โดยปิดบังความจริงเพื่อให้สอดคล้องกับหลักความเชื่อของตนเอง
ยินดีต้อนรับสู่ Beyond the Supernatural Tabletop RPG ครับ
พวกมันแฝงตัวอยู่ในเงามืดใกล้ตัวพวกเรามาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ หากจะเปรียบก็คงเหมือนเหล่านักล่าในป่าไพรที่ออกหากินยามค่ำคืน พวกคุณมองไม่เห็นมัน แต่มันอยู่ตรงนั้น ในเงามืดนั่น รอคอยเวลาที่คุณเผลอเพื่อจะออกมาตะครุบ ฉีกกระชากและกัดกินคุณเป็นอาหาร
ยามใดที่พวกมันถูกพบเห็นหรือผลงานอันชั่วร้ายของพวกมันถูกนำมาตีแผ่ เหล่าผู้มีอำนาจและสื่อทั้งหลายก็จะออกมาปฏิเสธเรื่องราวของพวกมัน พร้อมยกคำอธิบายใดๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องผีสาง ผีดิบ หรือปีศาจออกมาอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้ง เหล่าผู้คนที่ประสบพบเจอกับสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติก็มักจะไม่รายงานสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว พวกเขามักจะเก็บมันไว้กับตัว ไม่กล้าเล่ามันให้กับใครฟัง เพราะความกลัวที่จะถูกหัวเราะเยาะ ถูกประนามในสังคมว่าเป็นพวกคนบ้า ฟุ้งซ่าน วิกลจริต
มันง่ายกว่าที่จะบอกกับตัวเอง"อะไรก็ได้"ที่ไม่ใช่ความจริงที่น่าสะพรึงกลัวนั่น
เพราะมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น มันคัดค้านกับทุกสิ่งที่พวกเขารู้และเข้าใจ มันทำให้ม่านกำบังแห่งวิทยาศาสตร์นั้นแหลกสลาย กรีดร้องถึงความจริงที่พวกเขาถูกโกหกมาตลอดชีวิตและไม่มีใครปลอดภัยจากเหล่าภูติผีปีศาจอสูรกายที่ออกล่าเหยื่อในยามค่ำคืนได้ การยอมรับความจริงนั้นน่ากลัวกว่าการเผชิญหน้ากับปีศาจตนไหนๆ
เหล่าศัตรูที่เหนือธรรมชาติ
Haunters และPranksters - ผีร้ายในยามค่ำคืน
- เหล่าศัตรูเหนือธรรมชาติจำนวนมากเป็นพวกภูติผีวิญญาณ กลุ่มก้อนพลังงานที่จับต้องไม่ได้ ในการที่พวกมันจะข้ามมิติออกมา มันจะยึดติดกับความรู้สึกหรือความทรงจำ ออกมาเป็นผีร้ายที่คอยหลอกหลอน หรืออาจรวมตัวกันเป็นก้อนหนอนแมลง ก้อนขยะ เนื้อศพอันเน่าเฟะ หรือเข้าสิงร่างเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย อาศัยร่วมร่าง เดินอยู่ท่ามกลางหมู่พวกเรา แล้วบังคับให้เหยื่อกระทำการอันชั่วร้ายต่างๆ
- ส่วนมากพวกมันจะเป็นอสูรกายที่ชอบออกล่าและกัดกินมนุษย์เป็นอาหาร เป็นปีศาจเดรัจฉานที่ป่าเถื่อน แฝงกายอยู่ในป่าไพร ในเมือง หรือทั้งสองที่ ตามเหยื่อของมันในตามสวนสาธารณะ ถนนหนทาง ท่อระบายน้ำ อาคารที่รกร้าง ตรอกซอกซอยที่มืดสลัว ถนนในหมู่บ้านที่มืดเปลี่ยว พวกมันกินสัตว์อื่นเป็นอาหารด้วยแต่มนุษย์คือของโปรดของพวกมัน บางชนิดอาจมีความเฉลียวฉลาดและเล่นกับมนุษย์ก่อนจะกินเป็นอาหาร บางตัวชอบกินเป็นส่วนๆ หัว แขน ขา เครื่องใน มันสมอง บางตัวชอบกินเป็นประเภท ผู้ใหญ่ วัยรุ่น เด็ก ผู้หญิง โสเภณี คนแก่ ฯลฯ
- ปีศาจที่พวกเรามักคิดถึงในจินตนาการก็คือเหล่าข้ารับใช้แห่งความชั่วร้าย พวกมันมีความเฉลียวฉลาดและปลอมตัวมาให้แลดูคล้ายมนุษย์ ภายในเปลือกของมันแท้จริงคืออสูรกายที่น่าสะพรึงกลัว แม้นว่าพวกมันดูเหมือนจะทำตามใจของตนเองเสียส่วนใหญ่ แต่แท้จริงแล้วพวกมันก็คือข้ารับใช้ของปีศาจระดับสูง Ancient Evil (Demon Lords หรือ Dark Gods) และ Alien Intelligence บางครั้งพวกมันอาจถูกควบคุมโดยมนุษย์โดยเวทย์มนต์บังคับ วัตถุต้องสาป หรือสนธิสัญญากับปีศาจ
- พวกมันคือเหล่าศัตรูเหนือธรรมชาติที่จัดอยู่ในกลุ่มที่อันตรายที่สุด พวกมันมักอยู่เบื้องหลังความโหดเหี้ยม ชั่วร้าย และการทำลายล้างต่างๆนาๆ พวกมันคืออิทธิพลและมันสมองแห่งโลกเหนือธรรมชาติ เหล่ากษัตริย์ ราชินี และทวยเทพผู้กุมอำนาจเหนือกองทัพแห่งข้ารับใช้และปีศาจน้อยใหญ่จำนวนมากมายมหาศาล ใช้มนุษย์และปีศาจเหมือนหมากในเกมระดับจักรวาลเพื่อความบันเทิงของพวกมัน ความหวาดกลัวและทุกข์ทรมาณคือพลังงานสำหรับพวกมัน
- เหล่าสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่โต ร่างกายของพวกมันคือก้อนภูเขาเนื้อขนาดยักษ์และหนวดที่ยืดยาวออกมาแลดูน่าขยะแขยง ขนาดของพวกมันอาจใหญ่เท่าบ้านหรือเท่าตึกระฟ้า ร่างกายอันใหญ่โตของมันก้าวข้ามเขตแดนของมิติและสามารถส่งเศษเสี้ยวของตัวมันเข้ามาในโลกมนุษย์เพื่อก่อให้เกิดความหวาดกลัว เกลียดชัง ฆาตกรรมและความวิกลจริต ร่างเศษเสี้ยวจำแลงของพวกมันอาจเป็นเหมือนดั่งอสูรกายหรือมนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่งดงาม ด้วยพลังดุจเทพเจ้าและหัวใจแห่งความมืด
- พวกเรามักเป็นสาเหตุที่พวกด้านบนทั้งห้าเข้ามาในโลกมนุษย์นี้ได้เสมอ การที่พวกมันจะก้าวข้ามมายังโลกมนุษย์ได้มีสองวิธีเท่านั้น หนึ่งคือความบิดผันระดับจักรวาล เส้นการเดินทางของพลังงานเวทย์มนต์ Ley Line ที่คาดผ่านโลกใบนี้ เมื่อมันตัดผ่านกัน พลังงานตรงนั้นจะสูงขึ้นมากเป็นพิเศษและอาจทำให้ประตูสู่มิติอื่นถูกเปิดออกเองได้ สองคือการถูกอัญเชิญ ใช่แล้ว มากกว่าครึ่งของศัตรูเหนือธรรมชาติบนโลกนี้เกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์ที่อัญเชิญมันออกมา
เหล่าสิ่งเหนือธรรมชาติทั้งหลายจะต้องยึดติดกับอะไรบางอย่างในมิติของพวกเราเพื่อที่มันจะดำรงร่างอยู่ได้ พวกมันบางชนิดจะเชื่อมตัวเองเข้ากับความทรงจำ สถานที่ หรือผู้คนที่มีพลังจิตรุนแรง บางชนิดอาจสิงสู่ร่างกายของสิ่งมีชีวิต บางชนิดก็ข้ามมิติมาเพราะการอัญเชิญของมนุษย์ แม้นจะเป็นพวกปีศาจนักล่าที่ดูจะมีกายหยาบที่ชัดเจน แต่พวกมันก็มาจากมิติที่จับต้องไม่ได้อยู่ดี เมื่อพวกมันถูกสังหาร ร่างของพวกมันจึงสลายไปเหมือนไม่เคยมีตัวตนมาก่อนเลย
การที่ร่างของพวกมันสลายไปไม่เหลือร่องรอยใดๆหลังถูกสังหารนี้ พวกเราเรียกมันว่า "discorporation"
โลกของผู้มีพลังจิต
มนุษย์ตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ต่างรับรู้และใช้ชีวิตอยู่เคียงคู่กับสิ่งมีชีวิตและพลังเหนือธรรมชาติมาโดยตลอด มนุษย์ทุกกลุ่มทั่วโลกก่อนจะถึงยุคอุตสาหกรรมต่างก็มีเรื่องราวของภูติผีปีศาจ เทวดา เทวฑูต นักบุญ และพระผู้เป็นเจ้าของตน พวกเขามีพ่อมดหมอผี ชาแมน เหล่าผู้มีพลังเวทย์และพลังจิตมากกว่าคนปกติทั่วไปซึ่งจะคอยช่วยให้เผ่าของพวกเขาอยู่รอดต่อการรุกรานของเหล่าศัตรูเหนือธรรมชาติ
Potential Psychic Energy (P.P.E.)
ทุกๆสิ่งมีชีวิตจะมีค่า Potential Psychic Energy (P.P.E.) อยู่ในตนเองแต่น้อยคนนักที่จะสามารถพัฒนามันให้กลายเป็นพลังจิตได้ คนส่วนมากมักจะดื้อและหวาดกลัวเกินกว่าที่จะย่างก้าวเข้าสู่โลกที่ตนไม่รู้จัก เหล่า Psychics ผู้ใช้พลังจิตก็คือผู้ที่ฝึกตนจนสามารถดึงนำพลัง P.P.E. นี้มาใช้ได้ดังใจ
และพลังนี้เอง... ที่จะเป็นอาวุธให้พวกคุณต่อกรกับ"พวกมัน"
สนใจหาซื้อหนังสือเกม Tabletop RPG ได้ที่ Battlefield Bangkok สุขุมวิท 101/1
https://www.facebook.com/groups/battlefieldbangkok/
หาคนคุยด้วยเรื่อง Tabletop RPG เราสุมหันกันอยู่เป็นร้อย มาแจมพวกเราได้ที่
https://www.facebook.com/groups/rpgthailand/