Nightbane Tabletop RPG: โลกาแห่งราตรี หายนะแห่งความมืด
“พวกเราทุกคนเป็นสัตว์ที่ถูกจินตนาการขึ้นมา...”
- Domingo D'Ybarrondo, A Bestiary of the Soul
คุณเคยรู้สึกขนลุกเวลามองในกระจกหรือไม่? คุณเคยเห็นเงาในกระจกของตนเองแสยะยิ้มให้คุณเวลาคุณหันไปมองทางอื่นหรือเปล่า? ตอนกลางคืนเวลาที่คุณปิดไฟเข้านอน คุณเคยแอบเห็นเงาของตัวคุณเอง กำลังยืนมองคุณจากในกระจก จนคุณต้องคลุมโปงข่มตานอนแล้วหลอกตัวเองว่านั่นเป็นเพียงภาพหลอนที่สมองของคุณสร้างขึ้นมาเองหรือไม่?
บันทึกของนักเดินทางลึกลับจากสำนักพิมพ์ใต้ดิน The Wanderer Diaries นั้นได้มีการบันทึกไว้ว่า โลกที่พวกเราอาศัยกันอยู่ทุกวันนี้ อีกด้านหนึ่งของมันนั้นยังมีโลกคู่ขนาน เรียกปากต่อปากต่อกันมาแต่โบราณว่า The Nightlands หรือดินแดนแห่งความมืด ซึ่งในโลกคู่ขนานนั้น เป็นที่อยู่อาศัยของพวกเงาแห่งชีวิต Shades of the Living หรือที่มีบันทึกกันมาแต่โบราณว่า Dopplegangers นั่นเอง เวลาคุณมองเห็นพวกมันในกระจก พวกมันจะดูเหมือนกับคุณทุกกระเบียดนิ้ว พวกมันจะขยับเหมือนคุณ ยิ้มเหมือนคุณ มีความทรงจำทุกอย่างเหมือนๆกับคุณ เวลาที่คุณเดินออกจากกระจก พวกมันจะยืนงงคอยตามคุณอย่างไร้สติ รอคอยนาทีที่คุณจะโผล่มาหน้ากระจกหรือวัตถุที่สะท้อนเงาอีกครั้งหนึ่ง ในบางครั้ง พวกมันจะมีโอกาสที่จะ”ตื่นขึ้น” (awakened) และเมื่อพวกมันตื่นขึ้นแล้ว พวกมันก็จะก้าวข้ามกระจกออกมาสู่โลกของคุณ ฆ่าคุณ แล้วสลับร่างเปลี่ยนมาใช้ชีวิตแทนคุณ...
Capgras Syndrome อาการหลงผิดคะกราส์หรือ Body Snatcher Syndrome นี้เป็นความผิดปกติที่บุคคลหลงผิดว่า เพื่อน คู่สมรส บิดามารดา หรือสมาชิกสนิทในครอบครัว มีการทดแทนด้วยตัวปลอมที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกัน
“นางดี ผู้เป็นแม่บ้านวัย 74 ปี ที่เร็ว ๆ นี้เพิ่งออกจากโรงพยาบาลในพื้นที่ หลังจากที่ได้การรับเข้าโรงพยาบาลเพราะเหตุจิตเวช ได้มาที่ศูนย์ของเราเพื่อหาความเห็นที่สอง หลังจากได้การรับเข้าโรงพยาบาลแรก เธอได้รับการวินิจฉัยว่า เป็นโรคจิตนอกแบบ เพราะความเชื่อของเธอว่า ชายอีกคนหนึ่งผู้ไม่มีความสัมพันธ์กันได้เข้ามาทดแทนสามีของเธอ เธอได้ปฏิเสธที่จะนอนร่วมกับชายตัวปลอมนั้น ได้ล็อกประตูห้องนอนของเธอในยามวิกาล ได้ขอปืนจากบุตรชายของเธอ และในที่สุด ได้ทำการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จะพาเธอไปเข้าโรงพยาบาล ในบางครั้งบางคราวเธอก็เชื่อว่า สามีของเธอเป็นบิดาของเธอที่สิ้นชีวิตไปนานแล้ว เธอสามารถรู้จำสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวได้ ยกเว้นสามีของเธอเท่านั้น”
- จากงานของพาซเซอร์และวอร์น็อค ปี ค.ศ. 1991
บันทึกใต้ดินนี้ยังกล่าวอีกด้วยว่า The Nightlands หรือดินแดนแห่งความมืดนี้ นอกเหนือจากพวกเงาแห่งชีวิตซึ่งอยู่ชั้นล่างสุดของห่วงโซ่อาหารแล้ว ในดินแดนที่ไร้ซึ่งแสงอาทิตย์อันความอบอุ่นนี้ก็ยังมีสิ่งเหนือธรรมชาติอื่นๆอาศัยอยู่อีกด้วย พวกมันเป็นปีศาจที่ชั่วร้าย แบ่งชนชั้นวรรณะการปกครอง โดยกลุ่มที่อยู่ลำดับชั้นสูงที่สุดก็คือ Ba’al หรือ Nightlords ซึ่งเต็มไปด้วยความลับและพลังอันยิ่งใหญ่
...และพวกมันได้ก้าวข้ามมาแอบแฝงอยู่ในโลกของเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...
“มันน่าตื่นตาตื่นใจมากเลยครับท่านผู้ชม New York City ได้กลายเป็นเวลากลางคืนทั้งๆที่นี่เป็นเวลาเช้าครู่! โอ้! ผมมองไม่เห็นดาวหรือพระจันทร์เลยครับ เสมือนว่าผืนผ้าแห่งความมืดมิดได้ปกคลุมไปทั่วฟ้าเลยทีเดียว! ไม่อยากจะเชื่อ! นี่มันไม่ใช่สุริยคราส มัน... นี่มันเป็นวันสิ้นโลก ไม่ใช่แล้วแบบนี้! กูไม่อยู่แล้ว หลบไป!”
- Mark Smith ผู้สื่อข่าว CH7 Action News รายงานสดออกโทรทัศน์ก่อนจะพลัดตกจากหลังคาของอาคาร แล้วรอดชีวิตกลับมาฟ้องร้อง Chennel 7 และเมือง New York เรียกค่าเสียหายไปได้สำเร็จในภายหลัง
วันแห่งความมืด Dark Day เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 2000 เวลา 6:02AM EST โลกทั้งใบถูกปกคลุมด้วยความมืดที่ผิดธรรมชาตินาน 24 ชั่วโมง ความมืดนี้ไม่ใช่กลางคืน ผู้คนแตกตื่นเกิดความโกลาหลไปทั่วทุกมุมโลก มีบันทึกผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ทั้งหมดกว่า 600,000 คนจากเหตุการณ์จราจล ไฟไหม้ อุบัติเหตุ การฆ่าตัวตายและการฆาตกรรม และอีกนับล้านที่บาดเจ็บและประสบปัญหาภาวะทางจิต ผู้สื่อข่าวรายงานอย่างไร้การควบคุมยาวนานหลายชั่วโมงก่อนที่รัฐบาลของประเทศต่างๆจะเข้าควบคุมสถานการณ์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและให้ทุกคนอยู่ในบ้านอย่างสงบ ตำรวจ ทหาร กองกำลังทั้งหมดถูกนำมาใช้ควบคุมสถานการณ์ก่อจราจลในเมืองใหญ่ๆ
รายงานจากทั่วทุกมุมโลกระบุถึงอาการทางจิตของผู้เคราะห์ร้ายมากมาย บ้างก็ว่าพวกเขาเห็นสัตว์ประหลาดวิ่งอยู่บนท้องถนน บ้างก็ว่าเห็นปีศาจ เห็นเทวฑูตลงมาจุติ หลายกลุ่มพยายามประกาศว่ามันเป็นวันสิ้นโลก เป็นการลงทัณฑ์ พิพากษาของพระผู้เป็นเจ้ากันเป็นการใหญ่ ทางการภายหลังต้องออกมาอธิบายว่านี่เป็อาการทางจิตเห็นภาพหลอนซึ่งเป็นธรรมชาติของกลุ่มคนที่นับถือศาสนาจะมีปฏิกิริยาต่อเหตุการณ์ที่รุนแรงขนาดนี้
หลังจากที่กองทัพได้เข้าควบคุมสถานการณ์แล้ว หลายชั่วโมงหลังจากนั้นจึงเต็มไปด้วยความเงียบสงัดและความหวาดกลัว ผู้คนต่างเฝ้ารอคอยให้ความมืดนั้นผ่านไป พระอาทิตย์จะกลับมามั้ย? นี่เป็นวันสิ้นโลกหรือเปล่า? บางคนที่ไม่สามารถรับกับเหตุการณ์ระดับนี้ได้ก็ต่างปลิดชีวิตตนเองเพื่อหาทางออก... แต่แล้ว... 24 ชั่วโมงผ่านไป ในวันที่ 7 มีนาคม เวลา 6:02AM EST พระอาทิตย์ก็ได้กลับมาฉายแสงอีกครั้ง... ความโกลาหลและหวาดกลัวนั้นก็มลายหายไป รายงานเรื่องที่ผู้คนมองเห็นสัตว์ประหลาด เทวฑูต ปีศาจตามท้องถนนกลายเป็นเรื่องตลก เรื่องหลอกลวงไปในทันที ผู้คนต่างกู่ร้องยินดี เฉลิมฉลอง ดีใจว่ามันโลกไม่ได้กำลังจะดับสูญไป
....พวกเขาคิดผิด....
+++++++++++++++++
“วันนี้สำหรับ Hugh Jefferson มันห่วยสุดๆ เขาท่องไปตามตรอกซอกซอย คลานหลบไปหลังมุมถังขยะ ก่อนจะกระดกเหล้าที่เขากอดไว้จนหมดเกลี้ยง พยายามจะข่มตาหลับฝันให้ค่ำคืนนี้มันผ่านๆไปซะที
แต่บางสิ่งบางอย่างมันกำลังรอเขาอยู่...
ร่างของมันที่แม้นจะผอมซูบและแขนขาที่เก้งก้าง แต่ด้วยพละกำลังอันมหาศาลเหนือมนุษย์ มันยก Hugh ขึ้นลอยแล้วจับกระแทกอัดใส่กำแพง Hugh น้ำตาเล็ดจากความกลัวและความเจ็บปวด เขามองเห็นรอยยิ้มของมันที่ยกร่างหนัก 90 กิโลของเขาขึ้นอย่างง่ายดาย ชายแปลกหน้าอ้าปากเผยให้เห็นเขี้ยวอันแหลมคมขนาดใหญ่ Hugh ได้ดูหนังมามากตลอดชีวิตของเขา เขารู้ว่ามันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น
“ปล่อยเขาไปซะ” เสียงอันอ่อนนุ่มดังขึ้นมาจากท้ายตรอก
เจ้าแวมไพร์ทำเสียงฟ่อขู่ มันปล่อยร่างของ Hugh ตกลงมาจากกำแพงก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียงนั่น
Hugh รู้จักเสียงนั่น Sara Li สาวน้อยเอเซียร่างเล็กที่ชอบเดินเตร็ดเตร่อยู่ตามถนน เขาไม่แน่ใจว่าเธอเป็นโสเภณี ติดยา ขายยา หรือแค่หนีออกจากบ้านมา แต่เธอก็มักจะทำดีกับเขาอยู่เสมอๆ แต่ตอนนี้เธอกำลังเผชิญหน้าอยู่กับเจ้าปีศาจนั่น
“Sara! หนีไป!” เขารีดเสียงออกมาเตือนเธอ
“ไม่เป็นไรหรอก Huge” Sara ตอบ “ชั้นดูแลตัวเองได้”
“แกมาหาที่ตายแท้ๆ....” เจ้าแวมไพร์พูดด้วยน้ำเสียงที่น่าสะพรึงกลัวเหมือนเสียงกระซิบในป่าช้า
“ไม่ละ” ทันใดนั้น... Sara Li ก็กลายร่างของเธอ ใบหน้าของเธอนั้นเหมือนเดิมแต่สาวน้อยร่างเล็กในถุงน่องขาดๆ รองเท้าบู๊ทคอมแบท และเสื้อแจ๊คเก็ต Chinese Army ของเธอนั้นขาดกระจุย ร่างของเธอสูงใหญ่ เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ ร่างของเธอเต็มไปด้วยหนามยาวเปรอะเลือดที่แหลมยื่นออกมาตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนเธอเป็นตัวเม่นอัปลักษณ์อะไรซักอย่าง
“แกจะไปหรือแกจะตายที่นี่ก็เลือกเอานะ Vamps”
“เจ้าโง่!” เจ้าแวมไพร์สบถลั่น “พวกข้าเหยียบย่ำโลกใบนี้ตั้งแต่สมัยที่พวกเจ้ายังเป็นแค่ฝันร้ายเลวๆที่คลานยั้วเยี้ยอยู่ในโลกแห่งเงานั่น! ดินแดนนี้และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดของมันเป็นของพวกข้า!”
Sara Li เกร็งตัวของเธอ หนามแหลมเปื้อนเลือดและสนิมที่งอกอยู่ตามเนื้อตัวของเธอสั่นเป็นคลื่นยามที่เธอเกร็งกล้ามเนื้อ “ผิดแล้ว ไอ้ตัวดูดเลือด ไม่ว่าแกก็ดีหรือพวก Nightlords ก็ดี พวกเราไม่ต้อนรับแกทั้งนั้น!” หลังจากสิ้นคำ ร่างของเธอก็สั่นสะท้านจากอารมณ์โกรธพร้อมจะต่อสู้ เธอกรีดร้อง war-cry พร้อมพุ่งทะยานเข้าไปโจมตี อมนุษย์ทั้งสองกระโจนใส่กันกลางอากาศ กรงเล็บสะบัดสะท้อนแสง เขี้ยวอันแหลมคมพร้อมจะกัดกระชาก!
ก่อนที่ Hugh จะกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวแล้ววิ่งหายไปในยามราตรี....”
+++++++++++++++++
Nightbane
มีตำนานเรื่องเล่าตั้งแต่อดีตกาลจากทั่วทุกมุมโลกมากมายถึงเทพเจ้า สัตว์ประหลาด ปีศาจ ผีสางเทวดา อมนุษย์ผู้มีพลังพิเศษที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ บางตำนานก็ว่าถึงจอมพลัง นักรบ อัศวินผู้ผดุงความยุติธรรมต่อสู้กับมังกรร้าย บางตำนานก็พูดถึงปีศาจจากนรกตัวแทนของซาตาน หลอกล่อก่อความเดือดร้อนทำร้ายผู้คนไปทั่ว บ้างก็งดงามเสียจนเหมือนไม่ได้มาจากโลกนี้ บ้างก็อัปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัว แค่มองก็แทบจะเสียสติวิ่งหนีฉี่ราดกันเลยทีเดียว ในทุกยุคทุกสมัยนั้นมักจะมีเรื่องราวของสิ่งต่างๆเหล่านี้ถูกบันทึก ถูกพบเห็น และมักจะถูกลงเอยว่าเป็นภาพหลอน เรื่องเล่าปรัมปรา หาข้อเท็จจริงไม่ได้เสมอมา
The Wanderer Diaries บันทึกของนักเดินทางใต้ดินได้บันทึกถึงทฤษฎีหนึ่งไว้ว่า ในอดีตกาลก่อนที่พวก Nightlords นั้นจะยึดครองดินแดนแห่งความมืด Nightlands นั้นเคยมีเหล่า Formless Ones (เหล่าผู้ไร้ลักษณ์ ไร้รูปแบบ) อาศัยอยู่มาก่อน หลังจากที่พวกเขาถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นั้นเองที่บางส่วนของพวกเขานั้นหลบหนีข้ามประตูกระจกมายังโลกมนุษย์ ก่อกำเนิดกลายเป็นตำนานของเหล่า Nightbanes (อาวุธแห่งราตรี) ที่คอยต่อสู้กับพวก Nightlords และลูกสมุนของพวกมัน ไม่ให้สามารถกลืนกินทำตามใจชอบได้ในภพของโลกแห่งแสงสว่าง บ้างก็ว่าพวกเขาสมสู่กับมนุษย์และคลอดบุตรหลานออกมาเป็น Nightbanes สืบสายเลือดพิเศษนี้กระจายไปทั่วโลก บ้างก็ว่าพวกเขาไม่มีใครรอดชีวิต แต่ดวงวิญญาณของพวกเขานั้นเดินทางข้ามมิติมาครอบครองและมอบพลังให้แก่เผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างพวกเรานั่นเอง
และด้วยทฤษฎีนี้เองที่สามารถนำมาอธิบายได้ถึงต้นกำเนิดของเหล่า Nightbanes ที่เมื่อเกิดมาจะแลดูเหมือนมนุษย์ธรรมดา แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจหรือเป็นภัยต่อชีวิตอย่างร้ายแรงนั้นเองที่พวกเขาจะ “มีโอกาส” เกิดภาวะที่เรียกว่า The Becoming กลายร่างเป็น Nightbanes ได้หลากหลายรูปแบบ หลายลักษณ์ ว่ากันว่า Nightbane แต่ละตนนั้นจะมีรูปแบบที่แตกต่าง มีพลังที่แตกต่างกัน นับเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้ลักษณ์และไร้รูปแบบที่ชัดเจนอย่างสิ้นเชิง ผู้ที่เป็น Nightbane นั้นจะมีสองร่าง
ร่างมนุษย์ที่เรียกว่า Facade (ร่างโกหก) ซึ่งก็คือร่างมนุษย์ธรรมดาที่เราสวมใส่มาตลอดชีวิต
ร่าง Nightbane ที่เรียกว่า Morphus (ร่างที่แท้จริง) ซึ่งก็จะทำให้คุณมีพลังเหนือธรรมชาติ
โดยจะแบ่งประเภทออกไปได้ตามสายหลักๆดังนี้:
- Almost Human คล้ายมนุษย์
- Inhuman but Beautiful อมนุษย์แต่งดงามยิ่ง
- Marred Beauty งดงามอัปลักษณ์
- Lycanthrope สัตว์สมิง
- Monstrous Lycanthrope สัตว์สมิงอัปลักษณ์
- Inhuman Shape รูปร่างผิดมนุษย์
- Bizarre แปลกประหลาด
และเหล่า Nightbanes นี้เองที่เป็นต้นกำเนิดของตำนานสัตว์ประหลาด ปีศาจ หรือเทพเจ้าที่กระจัดกระจายอย่างแตกต่างแต่มีรูปแบบที่คล้ายคลึงกันอยู่ทั่วโลก ตำนานด้านดีก็คือเหล่า Nightbanes ที่มีจิตใจดี ใช้พลังไปในทางที่ถูกต้อง ปกป้องมนุษยชาติ ตำนานด้านเลวก็คือเหล่า Nightbanes ที่รับไม่ได้กับการแปลงร่างที่เกิดขึ้น หรือใช้พลังนั้นไปในทางที่ผิด หาประโยชน์ส่วนตน
+++++++++++++++++
และนี่ก็คือเรื่องราวของพวกคุณ ที่คิดว่าตนเองเป็นมนุษย์ธรรมดามาตลอดชีวิต ก่อนที่จะถูกกระตุ้นโดย Dark day วันแห่งความมืดที่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้เกิดเหตุการณ์ The Becoming กระตุ้นร่างและพลังที่แท้จริงของคุณให้ตื่นขึ้น นี่อาจเป็นการประกาศสงครามเพื่อยึดครองโลกของพวก Nightlords และต้องการล่อพวกคุณให้ออกมาก่อความโกลาหลบนโลกใบนี้ก็เป็นได้ พวกมันแทรกซึมอยู่ทุกหนแห่งบนโลกนี้และพวกมันมีแผนการบางอย่าง คนที่คุณเคยรู้จักมาตลอดชีวิตอาจถูกพวก Shades of the Living สลับสับเปลี่ยนร่างพร้อมจะเอามีดมากรีดคอคุณเมื่อไหร่ก็ได้ พวกมันเกลียดคุณ พวกมันจะฆ่าคุณ พวกมันจะเปลี่ยนโลกใบนี้ให้กลายเป็นนรกและจับคนที่คุณรักไปเป็นทาสของพวกมัน
คุณจะใช้พลังนั้นเพื่อกิเลสส่วนตนหรือใช้มันต่อสู้กับความชั่วร้ายที่กำลังมากับความมืดนั้นกันเล่า?
+++++++++++++++++
TO BE CONTINUED
หาซื้อหนังสือ Tabletop RPG ได้ที่
ชิวคุยเรื่อง Tabletop games ได้ที่