คุณลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกยุคกลางแฟนตาซี ความทรงจำค่อยๆทะลักความรู้เข้ามาว่านี่คืออาณาจักรที่มนุษย์เป็นใหญ่ชื่อว่า The Dragon Empire ซึ่งมีองค์จักรพรรดิ์มังกร Emperor ขนาบข้างด้วยจ้าวแห่งมนตรา Archmage ผู้คอยร่ายเวทย์ปกปักษ์รักษาดินแดน และผู้นำแห่งศรัทธานักบวชหญิงผู้มีรูปโฉมงดงาม Priestess มีจ้าวมังกรทอง Great Gold Wyrm ที่หลับใหลปกป้องดูแลโลกกันไม่ให้พวกปีศาจทะลักเข้ามาจากนรก Abyss ภายนอกอาณาจักรพลันปรากฎกองกำลังของนักรบทมิฬ Crusader ที่เคารพบูชาเทพแห่งความมืดแต่ก็มีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนไม่ทำร้ายผู้คนแต่อย่างใด มีราชินีแห่งภูต Elf Queen ที่คอยดูแลรักษาสันติภาพของเหล่าเอลฟ์ทั้งปวง มี High Druid ฤาษีแห่งป่าไพรที่แม้นอายุยังน้อยแต่นางก็กุมอำนาจและพลังแห่งธรรมชาติ ทุกอย่างในผืนป่านั้นเป็นของนาง
และเมื่อถึงยามราตรี เงามืดซัดทอดผ่านข้ามอาณาจักร พลังของพวกปีศาจก็จะโหมลุกโชดช่วง Diabolist แม่มดปีศาจร้ายกับสมุนของเธอก็จะลับมีดกรีดเนื้อของเหยื่อส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนดังไปทั่วแคว้น ณ สุสาน ดินแดนของคนตาย ที่นั่นคืออาณาจักรของ Lich King จ้าวแห่งผีดิบผู้เคยเป็นอดีตกษัตริย์ Wizard King ที่เคยครอบครองดินแดนแห่งนี้มาก่อน แต่ท่ามกลางกองกำลังแห่งความชั่วร้ายนี้ก็ยังมีอีกคานหนึ่งซึ่งเปี่ยมด้วยพละกำลังและปริมาณที่มากมายมหาศาล นั่นก็คือกองทัพของ Orc Lord จอมโหดผู้บ้าคลั่งย้ายถิ่นกลับมาอีกครั้ง หากจะเกิดศึกสงครามขึ้น ตัวแปรสำคัญของฝั่งอสูรก็ยังมี The Three หรือพญามังกรทั้งสามที่มีอำนาจเป็นรองก็แต่พญามังกรทอง Great Gold Wyrm เพียงเท่านั้น
แม้นยามค่ำคืนจะน่ากลัว แต่ประชาชนของอาณาจักรนั้นก็นอนหลับสบายเพราะความเชื่อมั่นในตัวจักรพรรดิ์มังกรและพันธมิตรของพระองค์ผู้ทรงปกปักษ์รักษาขุนเขาที่เปรียบเสมือนป้อมปราการกันพวกปีศาจทั้งหลาย นั่นก็คือจ้าวแห่งคนแคระ Dwarf King ผู้แข็งแกร่งและมั่งคั่งนั่นเอง แต่ถึงแม้ว่าปราการแห่งขุนเขานั้นจะแน่นหนาสักเพียงไหน มันก็ไม่อาจจะหยุดยั้งเจ้าชายแห่งรัตติกาล Prince of Shadow บุรุษ(?)ลึกลับผู้พร้อมจะปล้นโลกทั้งใบ ชื่นชอบเสียงของเหรียญทองและแสงสะท้อนจากอัญมณีที่วาววับเป็นชีวิตจิตใจไปได้..
ยินดีต้อนรับสู่ 13th Age (ยุคที่ 13) ครับ
ด้วยความที่มันใช้ระบบ D20 ที่เป็น Open Game License (OGL) กฎแจกฟรีโดย Wizards of the Coast กฎของ 13th Age จึงมีแจกฟรีที่:
- http://www.13thagesrd.com/
- http://www.drivethrurpg.com/product/129794/13th-Age-System-Reference-Document
- Icons โลกทั้งใบจะถูกขับเคลื่อนด้วยมหาอำนาจ 13 ตน ซึ่งคุณจะสามารถปรุงแต่งลดเพิ่มได้ตามใจชอบ
- Relationship ตัวละครของคุณจะมีความสัมพันธ์ต่างๆในหลายๆระดับกับเหล่า Icon บางตน และนั่นจะทำให้ตัวคุณมีบทบาทในโลกของเกมในทันที
- Backgrounds ลืมระบบสกิลตัวเลขยุบยับไปซะ ความสามารถของคุณจะเก่งขึ้นจากประสบการณ์ที่คุณมี ถ้าคุณเคยเป็นพ่อครัวมาก่อน คุณก็จะทำทุกอย่างที่พ่อครัวเคยทำได้และทำได้ดีด้วย
- One Unique Thing ในแง่ของตัวเลขคุณอาจจะเผลอไปเหมือนกับใครเขา แต่ OUT จะทำให้คุณเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครเลย เช่น OUT ของคุณอาจจะเป็น “ชั้นเป็นลูกนอกสมรส Bastard ของจ้าวแห่งแคว้นทางเหนือที่ถูก Emperor สั่งตัดหัวอย่างไม่เป็นธรรม” (คุ้นๆนะ)
- ระบบการต่อสู้ที่ไม่ต้องมานั่งนับช่องอีกต่อไป ตัวละครของคุณ เมื่อเข้าฉากต่อสู้ จะอยู่ในสามระดับคือ
- Engaged: อยู่ในระยะประชิด
- Nearby: อยู่ในระยะก้าวเดียวถึง
- Far-away: ไม่อยู่ในระยะก้าวเดียวถึง
เผ่าต่างๆที่คุณสามารถเลือกเล่นได้ (ยังมีอีกเพียบในเล่มเสริม หรือคุณจะคุยกับ GM แล้วสร้างเผ่าขึ้นมาเองก็ยังได้)
HUMANS มนุษย์
- เผ่ามนุษย์นั้นครองโลกอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย เมืองที่ใหญ่ที่สุดทั้งหกของอาณาจักรนั้นมีเผ่ามนุษย์เป็นประชากรหลัก ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนๆบนโลก จะชั่วหรือดีก็ต้องมีมนุษย์อาศัยอยู่ จักรพรรดิมังกรผู้เป็นจ้าวของอาณาจักรก็คือมนุษย์นั่นเอง
- ภายใต้ขุนเขาที่สูงใหญ่คืออาณาจักร Forge บ้านของเหล่าคนแคระทั้งปวง คนแคระนั้นเปี่ยมไปด้วยความทรงจำและเส้นสายตระกูลในแคลนที่มากมาย พวกเขาชอบจดบันทึกประวัติศาสตร์แล้วนำความรู้ที่สั่งสมในอดีตมาประยุกต์ใช้ในปัจจุบัน พวกเขาจะเชี่ยวชาญเรื่องน้ำเมาและสมบัติแฝงพลังเวทย์มากเป็นพิเศษ ตั้งแต่อดีตกาลแล้วที่พวกเขาจะขุดเหมือง ขูดทุกอย่างจนเกลี้ยงแล้วก็ย้ายถิ่นฐานหาจุดขุดเหมืองที่อื่นๆต่อไป
- ฮาล์ฟออคนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากการที่มนุษย์กับออคนั้นมีเพศสัมพันธ์กัน (ในกรณีนั้นมนุษย์ไม่น่ารอดไปได้) ตำนานกล่าวว่าในขณะที่พวกออคนั้นเกิดขึ้นจากการกลายพันธุ์ของเวทย์มนต์ที่ชั่วร้าย พวกฮาลฟ์ออคนั้นเป็นปาฎิหารย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอย่างช้าๆจากการดำรงอยู่ของพวกออค พวกเขาเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง ได้รับการยอมรับจากทั้ง Dragon Emperor และ High Druid ให้ตั้งรกรากอาศัยและเดินทางผ่านดินแดนได้ดั่งใจ
- มงกุฎของ Elf Queen นั้นประกอบไปด้วยสามส่วน ซึ่งหมายถึงเอล์ฟสามจำพวกในป่า Elven Woods คือ
- อัญมณีอเมทิสต์และหินออบซิเดียน ซึ่งก็คือเหล่า Dark Elves ที่ใช้ถ้ำยักษ์เป็นถิ่นอาศัยซึ่งแท้จริงแล้วก็ไม่ได้เป็นเผ่าที่ชั่วร้ายแต่โคตรจะใจร้าย พวกเขามีความภาคภูมิใจที่เหล่าวายร้ายของโลกบางส่วนนั้นมาจากเผ่าพันธุ์ของพวกเขาและมีความเคารพรักในองค์ราชินีในแบบวิปริตวิปลาส
- อัญมณีมรกตและดอกไม้ ซึ่งก็คือเหล่า Wood Elves ที่อาศัยอยู่กับต้นไม้ใหญ่ ซึ่งถ้าเป็นพวกที่สวามิภักดิ์ต่อ High Druid ก็จะเรียกตนว่า Green Elf หรือ Wild Elf โดยจะสร้างบ้านผูกเต๊นท์อยู่กับต้นไม้ใหญ่หรือทำบ้านบนกิ่งต้นไม้สูง
- อัญมณีเพชรและเวทย์แห่ง Force ซึ่งก็คือเหล่า High Elves สูงสง่าและส่องสว่างคือนิยามของพวกเขา แม้นว่ามนุษย์เมื่อได้ยินดังนั้นจะพูดถึงท้องฟ้า แต่พวกเขาจะบอกว่า ไม่ มันคือ High ไม่ใช่ Sky คำว่าท้องฟ้านั้นไว้ใช้สำหรับพวกสิ่งมีชีวิตใน Over World เท่านั้น พวกเขาจะอยู่อย่างสูงศักดิ์บนหอคอย ส่องหอดูดาวไปตามเรื่อง
- เหล่าผู้คนตัวเล็กที่อาศัยอยู่ใต้ดินและมีความสามารถทางเวทย์มนต์เยอะเป็นพิเศษ โดยดั้งเดิมแล้วพวกเขาจะขุดโพรงอยู่ใกล้กับพื้นดินแต่เวลาผ่านไป Gnomes บางส่วนก็ย้ายถิ่นฐานเข้าเมืองไปอยู่ห้องใต้ถุนหรือที่พักอาคารชั้นเตี้ยๆ Gnonme บางส่วนที่เคยอาศัยอยู่ใต้ดินลึกๆใกล้กับอาณาเขตของคนแคระต่างต้องย้ายถิ่นฐานออกมาเพราะสงครามระหว่างพวกคนแคระกับ Dark Elves ในอดีต ถึงกระนั้น พวกเขาที่เคยอยู่ใต้ดินลึกๆใกล้กับ Underworld ก็อาจมีอาการเสียสติวิปลาสแอบโรคจิตแฝงอยู่
- แม้นว่าฮาล์ฟเอล์ฟจะเกิดขึ้นแบบลูกครึ่งได้จากความรักระหว่างมนุษย์กับเอลฟ์ แต่ใน Dragon Empire นี้ บางครั้ง ฮาล์ฟเอล์ฟก็อาจเกิดขึนจากครอบครัวของมนุษย์ หรือของเอล์ฟที่ไม่เคยมีสัมพันธ์กับอีกเผ่าเลยได้เหมือนกัน ในอดีตกาล จักรพรรดิ์มังกรองค์แรกกับราชินีของเหล่าเอล์ฟจับมือประสานพลังพันธมิตรร่วมกันต่อสู้กับ Wizard King ซึ่งปัจจุบันนี้คือ Lich King หลังชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในครานั้น ตลอดระยะเวลาสิบสองปีต่อมา ลูกหลานของทั้งมนุษย์และเอล์ฟกว่าครึ่งก็ต่างคลอดออกมาเป็นฮาล์ฟเอล์ฟด้วยพลังเวทย์มนต์บางอย่างซึ่งทั้งสองผู้นำก็ออกมาประกาศว่าฮาล์ฟเอลฟ์นี่แหละคือสัญลักษณ์แห่งพันธมิตรระหว่างทั้งสองเผ่าของพวกเรา
- หรือก็คือ Hobbits ที่หลายๆคนคุ้นเคย ซึ่งประวัติความเป็นมานั้นโคตรจะไม่ชัดเจน เผ่าอื่นๆก็ต่างมีทฤษฎีของตนว่าพวก Halflings นั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เช่น พวก Gnomes บอกว่าพวกฮาลฟ์ลิ่งน่ะมันเป็นแคลนของพวกโนมมาก่อนแล้วก็ย้ายถิ่นฐานขึ้นไปอยู่บนดิน ก็เท่านั้นเอง! พวก Wood Elves ก็บอกว่าบ้านเกิดของพวกฮาล์ฟลิ่คือ Burrow, Old Town และ Twisp น่ะมันเคยอยู่ใต้บาเรียเวทย์มนต์ที่ไม่ใช่ของ Archmage มาแต่อดีตกาลแล้ว พวกฮาลฟ์ลิ่งน่ะเป็นเผ่าเก่าแก่นะ พวกเจ้าน่ะแค่ไม่เคยมองเห็นพวกเขาเท่านั้นเอง! เอาเข้าไป...
คลาสต่างๆที่คุณสามารถเลือกเล่นได้ (ยังมีอีกเพียบในเล่มเสริม)
Barbarian คนเถื่อน
- จากดินแดนอันป่าเถื่อน ปรากฎเหล่านักรบชายหญิงกล้ามโตผู้ดุร้าย แข็งแกร่งและไร้เทียมทาน ผู้ซึ่งจะยัดทุกเส้นเอ็นมัดกล้ามของร่างกายผนวกกับพลังใจที่เข้มแข็งเข้าปะทะกับทุกสิ่งที่อารยธรรมหรือเวทย์มนต์ใดๆจะขวางกั้น บ้างก็ได้รับเกียรติยศและทรัพย์สมบัติเป็นรางวัล บ้างก็ไม่ได้รับสิ่งใดเลยนอกจากความพึงพอใจ สะใจที่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวได้สำเร็จ บางครั้ง Barbarian ก็ไม่ได้มาจากบ้านป่าเมืองเถื่อน แต่อาจเป็นยอดนักรบผู้ทรงพลัง ขับเคลื่อนด้วยความโกรธา หรืออาจเกี่ยวข้องกับ Orc Lord, High Druid. มังกรแดงของ The Three หรือ Diabolist ก็เป็นได้
- Bard ที่แก่กล้านั้นจะสามารถขับกล่อมท่วงทำนองดุจเทพจำแลงได้ เหล่า Bard ทั้งหลายจะท่องไปในโลก เรียนรู้สั่งสมประสบการณ์ ถ่ายทอดบทเพลงโบราณและความลับของเวทย์มนต์ต่างๆให้แก่ผู้ที่คู่ควร พวกเขาเรียนรู้เวทย์มนต์สายที่อ่อนละมุนและรับรู้ด้วยจิตใจ ใช้หัวใจร่ายเวทย์ไม่ใช่แค่จิต คาถา วิชาอาวุธ และความโรแมนติคของพวกเขาหลอมรวมเป็นบทกวี Bard ที่เก่งกาจจะยกระดับพรรคพวก ขับกล่อมท่วงทำนองให้ทุกคนฮึกเหิมและฟันฝ่าอุปสรรคได้สำเร็จ Bard ที่ชั่วร้ายจะคอยชักใย ยั่งยุและเห็นแก่ตัว
- มนุษย์ทุกคนเรียกร้องหาพระผู้เป็นเจ้า แต่ในยามที่พระนักรบ Cleric เรียกนั้น บางครั้ง เหล่าพระผู้เป็นเจ้าก็จะรับฟัง พวกเขามีพรอันศักดิสิทธิ์และเป็นนักบวชของศาสนาที่พวกเขาศรัทธา ณ ปัจจุบันนี้ ไม่มีเหล่าทวยเทพมาเดินเหินอยู่บนพื้นโลกอีกแล้ว โลกใบนี้ถูกปกครองด้วยอาณาจักรต่างๆและมหาอำนาจทั้ง 13 คุณจะสามารถเลือกนับถือเทพองค์ใดจากตำนานไหนก็ได้ตามใจชอบ เหล่า Cleric ที่ออกผจญภัยนั้นจะเชี่ยวชาญในการต่อสู้ รวมถึงอาจมีประวัติ “ก่อนจะออกบวช” ที่น่าสนใจอีกด้วย
- การที่คุณจะเป็น Fighter นักสู้ที่แท้จริงนั้นจะต้องมีระดับของกึ๋นและความกล้าหาญที่ไม่ธรรมดา คนอย่างคุณนั้นหาได้ยากพอๆกับ Wizard ผู้มีพลังวิเศษเลยทีเดียว แค่คุณถูกจับยัดเข้ากองทัพไม่ได้แปลว่าคุณเป็นนักสู้ คุณมีมากกว่าความสามารถ ระเบียบวินับ ความทรหด สารพัดวิธีที่จะหยุดยั้งพยันอันตราย รวมถึงสารพัดวิธีที่จะมอบความเจ็บปวดให้กับศัตรูของคุณอีกด้วย
- ในทุกยุคทุกสมัยจะปรากฎเหล่าชายหญิงผู้จะยืนหยัดต่อสู้ อุทิศตนเพื่อความถูกต้องยุติธรรมอยู่เสมอ เหล่า Paladins จะต่อสู้ในนามของพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา พวกเขาเป็นทั้งผู้พิทักษ์และมือปราบโดยจะออกปฎิบัติภารกิจเพื่อความยุติธรรมอย่างโหดเหี้ยมเพื่อเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู ว่าหากมีใครคิดจะมาทำร้ายผู้ที่อยู่ใต้การดูแลของพวกเขาแล้วละก็ พวกมันจะต้องพบกับชะตากรรมที่โหดร้ายนี้อย่างแน่นอน ผู้คนต่างพึ่งพาพวกเขา เหล่าเจ้าขุนมูลนายต่างเฉลิมฉลองให้พวกเขา เหล่าสัตว์ประหลาดต่างเกรงกลัวพวกเขา แต่.... มีขาวก็ต้องมีดำ มหาอำนาจ Crusader ผู้ยิ่งใหญ่ก็เป็นแรงบันดาลใจให้เกิด Paladin แห่งความมืดมากมายเช่นกัน
- Ranger ยอดพรานผู้เป็นมืออาชีพในการล่าเหยื่อ เชี่ยวชาญการสะกดรอยตาม การล่าค่าหัว การใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทรหด นักล่าบางคนอาจถูกฝึกมาในสถาบัน Ranger ภายใต้มหาอำนาจหรือผู้มีอิทธิพลอื่นๆ นักล่าบางคนอาจอยู่เป็นหมาป่าเดี่ยวดายหรือเกาะกลุ่มเป็นแก๊งในป่า ล่วงรู้ความลับโบราณบางอย่างผิดกับภาพลักษณ์ที่ดูดิบเถื่อน นักล่าอาจมีสหายคู่กายที่เป็นสัตว์ชนิดต่างๆ เช่น หมี อินทรี เสือ สิงโค งู หมาป่า และอื่นๆ
- ถึงชื่อจะแปลว่าเป็นโจรหรือคนพาลแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นโจรกระจอกทั่วๆไป Rogue นั้นจะมีฝีไม้ลายมือ เทคนิคแพรวพราวโดดเด่นกว่าโจรกระจอกหรืออันธพาลทั่วๆไป บางคนอาจเป็นพวกบ้าบิ่นไม่รักชีวิต ชอบที่จะทำอะไรเสี่ยงๆ พวกเขามักจะรวดเร็ว เปี่ยมด้วยรอยยิ้ม คมมีด และทางหนีทีไล่อยู่เสมอ พวกเขาอาจเป็นผู้สำเร็จวิชาจากสถาบันฝึกสายลับ กิลด์ของพวกรังโจร ลัทธิของจ้าวมังกรดำ Black Dragon อาจเป็นอิสระ หรืออาจทำงานให้ใครที่ทรงพลังมากๆก็เป็นได้
- ในสมัยที่อาณาจักรยังพึ่งจะก่อตั้งนั้นไม่เคยปรากฎเหล่า Sorcerer ให้ได้พบเห็น ทุกวันนี้กลับมีพวกเขาอยู่เต็มไปหมด ในสมัยนั้นเหล่ามหาอำนาจ Icons ทั้งหลายจะกุมพลังเวทย์ของตนไว้แต่เพียงผู้เดียว ผุ้ที่จะสามารถเข้าถึงความลับเหล่านั้นได้ก็จะมีแต่พวกสาวกเท่านั้น กาลเวลาผ่านไป ความรัดกุมนั้นก็เริ่มหละหลวม ความลับของการดึงพลังนั้นออกมาใช้ก็กระจายไปทั่ว พวก Sorcerer คือผู้ที่รู้ความลับว่าจะดึงพลังของเหล่ามหาอำนาจทั้งหลายออกมาใช้ได้อย่างไรโดยไม่ขออนุญาต พวกเขาบ้าบิ่นและท้าทายเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับอำนาจที่ยิ่งใหญ่ เหล่า Wizards มักจะพูดถึงพวก Sorcerer ว่าพวกเขาไม่ได้ร่ายเวทย์แต่ปลดปล่อยให้มันทะลักออกมา พวก Elves กล่าวว่าคุณจะไม่มีวันได้คุยกับ Sorcerer คนเดิมซ้ำสอง พวก Dwarves บอกว่า พวกกูน่ะไม่เคยได้คุยเลยแม้แต่ครั้งเดียว
- เหล่าพ่อมดหรือปราชญ์แห่งเวทย์นี้คือจ้าวแห่งการควบคุมคลื่นพลังของเวทย์มนต์ พวกเขาจะใช้เรขาคณิต สัญลักษณ์ วิทยาตัวเลขทางไสยศาสตร์ และการใช้ระบบไวยากรณ์ที่ซับซ้อนในการอธิบายและควบคุมเวทย์มนต์ วิชาความรู้ทั้งหมดจะถูกถ่ายทอดลงในตำราเล่มโต เต็มไปด้วยลายมือที่ขีดเขียน รหัสลับ และการออกแบบลายเส้นที่วุ่นวายซับซ้อนยากแก่การเข้าใจ Wizard ทุกตนจะขึ้นตรงกับโรงเรียนหรือตระกูล สืบทอดจากครูสู่ศิษย์ รุ่นสู่รุ่น ทุกวันนี้สถาบัน Wizard มากมายนั้นขึ้นตรงกับมหาอำนาจ Archmage แต่ส่วนมากก็จะบริหารจัดการตนเองอย่างอิสระ Wizard จากทุกโรงเรียนจะต้องสาบานตนว่าจะให้ความเคารพและนับถือ Wizard จากโรงเรียนอื่นๆทำให้สามารถคุมความขัดแย้งไว้ได้บ้างในระดับหนึ่ง ส่วนมากพวกที่หมกตัวอยู่ในสถาบันเราจะเป็นพวกปอดแหก Book-Wizards ที่เอาแต่เรียนแต่ไม่เคยออกสนามฝึกฝนจริง พวกคุณที่ออกไปผจญภัยในโลกภายนอกคือผู้กล้าหาญที่จะต่อกรกับปัญหาของมวลมนุษยชาติด้วยสติ ไม่เหมือนคนอื่นที่เอาแต่วิตกและหวาดกลัว
- บนโลกแบนๆอันกว้างใหญ่ไพศาล ห้อมล้อมด้วยป่าไม้และมหาสมุทรแผ่นนี้มีอำนาจที่คานกันอยู่ 13 คน/ตน/ตัว ซึ่งเปรียบเสมือนแคลน ศรัทธา ศาสนา ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณจะสวามิภักดิ์ นับถือ เคารพ บูชา หรือคลั่งไคล้
- คุณมีทั้งหมด 3 แต้มที่คุณจะเลือกให้แก่เหล่า Icon มหาอำนาจทั้ง 13 ในแต่ละแต้มนี้คุณจะต้องระบุว่า
- คุณจะมอบแต้มนั้นให้ใคร
- แต้มนั้นจะบ่งบอกถึงความสัมพันธ์แบบไหน
- ความสัมพันธ์ที่ดี Positive Relationship
- ความสัมพันธ์ที่ขัดแย้ง Conflicted Relationship
- ความสัมพันธ์ที่ไม่ดี Negative Relationship
- ยกตัวอย่างเช่น ผมกริมมี่ เลือกฝ่ายดังนี้
- 1 X ความสัมพันธ์ที่ดีกับ Orc Lord
- 1 X ความสัมพันธ์ที่ขัดแย้งกับ Priestess
- 1 X ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับ Dwarf King
Archmage
ก็พอหอมปากหอมคอกับโลกของ 13th Age ยุคที่สิบสามนี้นะครับ ใครสนใจจะลุยเริ่มฝึกสร้างตัวละครก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิงค์กฎแจกฟรีที่ผมแปะไว้ด้านบนครับ
- บุรุษผู้ถูกขนานนามว่าเป็นอมตะ ดูแลปกปักษ์รักษา Empire อาณาจักรมาหลายร้อยปี เวทย์มนต์ของเขาจะคอยหยุดลมพายุที่เกี้ยวกราด ปลุกชีพให้ไร่นาของชาวบ้าน หยุดยั้งโรคระบาดช่วยเหลือผู้คน ที่อาณาจักรมีระเบียบวินัย ปลอดภัยและสมบูรณ์ก็เป็นเพราะ Archmage ผู้นี้
- จักรพรรดิ์ผู้เป็นจ้าวแห่งอาณาจักรมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก The Dragon Empire ซึ่งขึ้นชื่อว่ามีกองทัพนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี พระองค์ผู้สืบสายเลือดแห่งจักรพรรดิ์มาหลายชั่วอายุคนได้อุทิศตนเพื่อความปลอดภัยและความผาสุขของปวงประชา แต่ทว่า บัดนี้ลางร้ายทั้งหลายต่างบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย Empire จะอยู่หรือไปกันแน่?
- จ้าวมังกรทองผู้ยิ่งใหญ่คือผู้พิทักษ์โลกและแรงบันดาลใจให้แก่เหล่าภาคีอันศักดิ์สิทธิ์ของพวก Paladins และเหล่าวีรบุรุษทั้งหลายในแผ่นดิน แม้นว่าร่างเนื้อของท่านในเวลานี้จะนอนอุดช่องว่างที่กั้นขวางไม่ให้เหล่าสัตว์ประหลาดจากนรก Abyss ได้แห่ทะลักมาสู่โลกใบนี้ แต่ท่านก็บันดาลตนมาในความฝันและเหล่าทหารของท่านก็ออกเดินทางไปทั่วโลกคอยช่วยเหลือและต่อสู้เพื่อผดุงความยุติธรรม
- นักบวชหญิงนั้นสื่อสารกับเหล่าเทพแห่งแสงและจะพูดคุยกับเหล่าผู้ทำให้เธอพึงพอใจ เธอเป็นทั้งโหร ทั้งนักเวทย์ รวมถึงเป็นวิศวกรแห่งอภิปรัชญา เธอสรรค์สร้างโบสถ์ Cathedral ขนาดใหญ่ที่มีห้องหับมากมายเพื่อเหล่าทวยเทพของเธอ
- นักรบหุ้มเกราะในตำนานผู้นี้ไม่ใช่นักรบศักดิ์สิทธิ์อย่างที่คุณคิด เขาคือกำปั้นเหล็กตัวแทนของ Dark Gods เหล่าเทพทมิฬ และตราบใดที่พวกเทพแห่งแสงสว่างไม่มาเสือกเรื่องของเขา เขาก็จะอุทิศตนต่อสู้กับพวกปีศาจที่พยายามจะมาแย่งชิงโลกใบนี้ซึ่งเทพทมิฬของเขานั้นต้องการจะปกครอง สำหรับอาณาจักรแล้ว เขาคือศัตรูของศัตรู
- กษัตริย์คนแคระนั้นเป็นจ้าวแห่งดินแดน Forge ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเหล่าคนแคระใต้ภูเขา พระองค์มีจุดประสงค์ที่จะแย่งชิง Underhome ดินแดนของเหล่าคนแคระกลับมาจากพวก Dark Elves และพวกสัตว์ประหลาดใต้พิภพ ยามนี้ Empire อาณาจักรกำลังระส่ำระส่าย เหล่าคนแคระก็ต่างช่วยปกป้องขุนเขาซึ่งเปรียบเสมือนโล่กำบัง Empire จากพวกเหล่า Orcs และสัตว์ประหลาดจากทางเหนือ
- ราชินีเอล์ฟเป็นจ้าวแห่ง Court of Stars สภาแห่งดวงดาวซึ่งเป็นสถานที่ซึ่งเหล่า Wood Elves, Dark Elves และ High Elves ทั้งสามเผ่าจะพบเจอกันได้อย่างเป็นมิตร ซึ่งเมื่ออยู่นอกสภานี้ พวกเขาก็จะกลับเป็นศัตรูกันทันที ว่ากันว่าเวทย์มนต์ของนางนั้นเทียบเท่ากับของ Archmage และนางมีสายสัมพันธ์เชื่อมต่อกับเอล์ฟทุกตนในโลก
- จ้าวแห่งฤาษีคนใหม่นี้เป็นหญิง Half Elf ที่อายุยังน้อยและเติบโตขึ้นมาใน Empire แต่นางได้ทำพิธีร่างเวทย์มนต์ต่อเหล่าทวยเทพดึงพลังและยึดครองป่า Wild Wood มาเป็นของตน กลายเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณและเวทย์มนต์ให้แก่เหล่า Druid ทั้งแผ่นดิน และได้ปลดโซ่ตรวนที่ Empire ผนึกพลังของธรรมชาติเอาไว้
- เจ้าชายแห่งเงานั้นเป็นทั้งมหาโจร จอมต้มตุ๋น และนักฆ่า สำหรับบางคนเขาคือวีรบุรุษ สำหรับหลายๆคนเขาคือผู้ร้าย เขาคือผู้ที่ถลุงทรัพย์สินของพวกคนแคระ ปลิดชีพมังกร ปล้นชิงความฝันของทวยเทพ ความอาจหาญของเขาได้เปลี่ยนโลกทั้งใบ แต่กลับไม่มีใครล่วงรู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาเลย
- ตำนานเล่าว่า ในอดีตนางเคยเป็นมนุษย์มาก่อนแต่ยิ่งผ่านนานไป นางก็กลายร่างเป็นเหมือนปีศาจลูกสมุนของนางเข้าไปทุกที นิสัยของนางชอบฟังเสียงกรีดร้องของเหยื่อเป็นที่สุด แต่ก็ยังดีที่วิถีของนางจะทำลายล้างในระดับที่เป็นส่วนตัว และไม่ได้มีเป้าหมายที่จะทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ นางอาจเผยความใจดีให้เห็นหากคุณทำให้นางพอใจ
- จ้าวแห่งเหล่าผีดิบทั้งปวง ในอดีต Lich King ผู้นี้เคยเป็น Wizard King ทรราชย์ที่พยายามจะยึดครอง Empire และฟื้นฟูอาณาจักรโบราณของตนแต่ทำไม่สำเร็จเพราะถูก Dragon Emperor, เหล่า Elves และคนแคระผนึกกำลังต่อสู้และปราบลงได้สำเร็จ
- จ้าวแห่งเหล่าออคนั้นเป็นตำนาน ในอดีตเขาเคยช่วยล้ม Wizard King ซึ่งบัดนี้กลายเป็น Lich King มาแล้ว ว่ากันว่า Orc Lord นั้นเกิดขึ้นมาด้วยฝีมือของพวกเอลฟ์บางกลุ่มเพื่อใช้ต่อสู้กับ Wizard King ในอดีต บัดนี้เขากลับมาแล้ว เขากลับมาเพื่อสิ่งใดกัน?
- มังกรทั้งสามนี้เป็นหนึ่งในมังกรตนแรกๆที่เกิดขึ้นมาบนโลก มังกรแดงคือเครื่องจักรสังหาร มังกรฟ้าคือจอมเวทย์ หรืออาจเป็นมารดาของเวทย์มนต์ทั้งปวงก็เป็นได้ มังกรดำคือราชินีแห่งเงามืดและเหล่านักฆ่าทั้งปวง มังกรทั้งสามนี้ผนึกกำลังกัน และแม้นว่าพวกมันจะไม่ได้แข็งแกรงเท่าจ้าวมังกรทอง แต่พวกมันก็ไม่ได้ติดแหงกอยู่ในช่องว่างเชื่อมต่อกับ Abyss
แผ่นตัวละครสามารถโหลดได้จากเวปหลัก http://www.pelgranepress.com/site/?tag=download&cat=248 |
หาซื้อ Tabletop Games ต่างๆได้ที่ Battlefield Bangkok สุขุมวิท 101/1:
https://www.facebook.com/groups/battlefieldbangkok/
หาเพื่อนคุยชิวเรื่อง Tabletop games ได้ที่:
https://www.facebook.com/groups/rpgthailand/