http://www.francescofrancavilla.com/gallery/hp_lovecraft.html |
อ้างอิงจาก http://www.themorningnews.org/article/h.p.-lovecraft-author-is-dead
เมื่อ 78 ปีก่อน... เมื่อวานนี้ 15th March 1937 คือวันที่นักประพันธ์ผู้หนึ่งได้จบชีวิตลงด้วยอายุเพียง 46 ปี เขาสิ้นใจลงที่โรงพยาบาล Jane Brown Memorial และร่างของเขาได้ถูกนำไปฝังที่สุสาน Swan Point Cemetery
แม้นว่าบทความนี้จะพูดถึงเขาว่าเป็นนักประพันธ์ แต่เมื่อ 78 ปีก่อน ในวันที่เขาสิ้นใจลง กลับไม่มีใครรู้จักเขาในฐานะนักประพันธ์เลย งานเขียน จดหมาย มากมายกว่า 3 หมื่นฉบับที่ถูกส่งไปหาสำนักพิมพ์ต่างๆตลอดหลายต่อหลายปี มันไม่เคยถูกยอมรับ และได้สูญหายไปในเก๊ะหรือถังขยะ ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของเขา Howard Phillips Lovecraft
แม้นว่าจะมีผู้ที่นิยมชมชอบในสไตล์การเขียนเรื่องราวสยองขวัญของเขา บุรุษชื่อ August Derleth ที่ร่วมกันก่อตั้งสำนักพิมพ์ Arkham House อุทิศตน ตีพิมพ์งานเขียนทั้งเก่าและใหม่ของ Lovecraft มากมายแต่ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ มันยากจะเชื่อจริงๆว่างานเขียนของ Lovecraft จะอยู่รอดจนถึงศตวรรษที่ 21
แต่แล้ว... ณ วันนี้ 78 ปีให้หลัง H.P. Lovecraft กลับเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ตำนาน Cthulhu Mythos ของเขาได้ผลิดอกออกผลกระจายไปทั่วตลอดช่วง 30 ปีที่ผ่านมา หนังสือเล่มใหม่ๆสืบทอดตำนาน ภาพยนตร์ เกมหลากหลายรูปแบบ หนังสือภาพ หรือแม้กระทั่งอัลบั้มเพลง และยังคงมีกระแสที่รุนแรงผลิตผลงานใหม่ๆออกมาสู่ท้องตลาดอยู่ทุกๆปี ผลงานของชายผู้หนึ่งซึ่งเขียนถึงเรื่องราวของเทพและลัทธิโบราณได้ถูกรื้อฟื้นและแพร่กระจายออกไปทั่วโลกด้วยผลผลิตของเทคโนโลยีของยุคใหม่ นั่นคือ Internet
1892 – Sarah, Howard, and Winfield Lovecraft |
คุณตาของเขาเล็งเห็นถึงความสามารถในการเขียนของ Howard และสนับสนุนให้เขาเข้าห้องสมุด อ่านหนังสือแฟนตาซีและตำนานต่างๆ แต่แม้นว่าคุณตาของเขาจะพยายามสนับสนุนให้ Howard ออกไปสู่โลกกว้าง แต่คุณแม่ของเขาซึ่งปกป้องเขามากจนเกินเหตุทำให้เขากลายเป็นคนที่หวาดกลัวกับทุกๆสิ่ง เขาเริ่มมีอาการเจ็บป่วยทั้งทางกายและทางจิตในหลายๆด้าน ทำให้เขาไม่ได้ไปโรงเรียนหรือเข้าสังคมกับเพื่อนฝูง
ในปี 1904 เมื่อคุณตาของเขาเสีย บ้านของเขาประสบปัญหาขาดแคลนทางการเงินหนักมากจนถูกยึดบ้าน หลังจากนั้นเขาก็ย้ายไปอยู่ห้องเช่ากับคุณแม่ ซึ่งทำให้ปัญหาอาการทางจิตของเขายิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ภายใน 4 ปีหลังจากนั้น เขาประสบปัญหาทางจิต nervous breakdown หลายครั้ง ลาออกจากโรงเรียน และเก็บตัวอยู่กับบ้าน ติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอกทางจดหมายเท่านั้น และในช่วงเวลานี้เองที่เขาเริ่มสนใจศึกษาในดาราศาสตร์ และในวัย 16 ปีก็ได้เริ่มเขียนบทความดาราศาสตร์ให้กับหนังสือพิมพ์ Providence Tribune
1915 – Lovecraft’s official United Amateur Press Association photograph |
ใน The Call of Cthulhu ผลงานชิ้นเอกของ Lovecraft ตัวละครในเรื่องได้อธิบายถึงรูปปั้นประหลาดรูปร่างแสนอัปลักษณ์ว่า
It seemed to be a sort of monster, or symbol representing a monster, of a form which only a diseased fancy could conceive. If I say that my somewhat extravagant imagination yielded simultaneous pictures of an octopus, a dragon, and a human caricature, I shall not be unfaithful to the spirit of the thing. A pulpy, tentacled head surmounted a grotesque and scaly body with rudimentary wings; but it was the general outline of the whole which made it most shockingly frightful.
"มันแลดูเหมือนสัตว์ประหลาดบางอย่าง หรือสัญลักษณ์ของสัตว์ประหลาดสักตัวหนึ่ง ซึ่งรูปร่างของมันนั้น คงมีแต่จินตนาการที่ติดโรคเรื้อรังเท่านั้นถึงจะคิดถึงมันได้ ถ้าผมจะบอกว่า จินตนาการของผมมองเห็นภาพของปลาหมึกยักษ์ ของมังกร และรูปร่างที่แลดูคล้ายกับมนุษย์ นั่นก็คงจะไม่ผิดเพี้ยนไปจากจิตวิญญาณของสิ่งที่มันเป็น หัวเนื้อที่มีหนวดโยงระแยงออกมาของมันประดับอยู่บนร่างกายที่เต็มไปด้วยเกล็ดที่น่ารังเกียจและปีกที่หุบนาบ แต่ภาพรวมทั้งหมดของมันต่างหากที่ทำให้มันแลดูน่าหวาดสะพรึง"
ภาพ Cthulhu วาดโดย H. P. Lovecraft ในปี 1934 |
โลกของ Lovecraft นั้นหมองหม่นและไม่เป็นมิตรกับผู้ใด แม้นว่าเรื่องราวของแวมไพร์และสิ่งเหนือธรรมชาติอื่นๆจะได้รับความนิยมในสื่อต่างๆในยุคนั้นแต่ Lovecraft เลือกจะสร้างความสยองขวัญขึ้นมาในแบบฉบับของเขาเอง แบบฉบับนั้น ปรัชญาทางวรรณกรรมนั้นได้ถูกขนานนามต่อมาในชื่อว่า "Cosmicism"
Cosmicism นั้นไม่ได้ว่าด้วยความชั่วร้ายแบบ Gothic horror แต่มันคือความไร้ค่าของมวลมนุษยชาติ ซึ่งแตกต่างจาก sexy supernatural ซึ่งเป็นเทรนด์ยอดนิยมมาจนถึงยุคปัจจุบันที่ก่อให้เกิดความต้องการ แม้นว่าฝั่งตรงข้ามจะเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติก็ตาม แต่ Lovecraft นั้นไม่ได้มอบสิ่งยั่วเย้าการปลอบใจใดๆแบบนั้นให้กับผู้อื่นเลยแม้แต่น้อย ในจักรวาลของเขา ไม่มีสิ่งใด ไม่มีอะไรเลยที่จะสนใจใครเลยไม่ว่าทางใดก็ตาม เหล่าเทพเจ้าเหล่านั้นคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเรามนุษย์ไม่สามารถที่จะประมวลผลมันได้ Cthulhu ไม่ได้ลุกขึ้นมาจากทะเลเพื่อทำร้ายเรือลำนั้น เหตุผลของมันนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่มันสมองของมนุษย์อย่างเราจะหยั่งถึง ตัวกัปตันนั้นเองก็เป็นเพียงเศษฝุ่นธุลีที่บังเอิญไปอยู่ตรงนั้น ไม่สามารถที่จะยอมรับหรือควบคุมชะตากรรมของตนเองได้เลย
ผลงานโดย JK Potter |
ตลอด 40 ปีที่ตำนานของ Cthulhu Mythos ไม่เคยได้รับความสนใจ แต่แล้ว ในช่วงปี 80 ก็เกิดกระแสใหม่ขึ้นมาซึ่งกระแสนั้นก็ทำให้งานเขียนของ Lovecraft ได้กระจายไปทั่วโลกดั่งเช่นทุกวันนี้
- ประมาณปี 1984-86 สำนักพิมพ์ Arkham House ได้ตีพิมพ์บทประพันธ์ของ Lovecraft อีกครั้งหนึ่ง
- Stephen King ได้พูดถึงผลงานหนังสือหนึ่งพันกว่าหน้าของเขา It ว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Lovecraft กระแสนั้นโหมแรงขึ้นเมื่อ Stephen King ได้ยกย่อง H.P. Lovecraft ว่าเป็นผู้ประพันธ์งานเขียนสยองขวัญคลาสสิคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษที่ 20 “the twentieth century’s greatest practitioner of the classic horror tale”
- กระแสของกลุ่มศาสนาเช่น Moral Majority ออกมาต่อต้านอิทธิพลของลัทธิซาตานทั่วประเทศ
- 1985 ภาพยนตร์ Re-Animator ซึ่งทำมาจากเนื้อเรื่องคร่าวๆของ Herbert West—Reanimator บทประพันธ์ของ Lovecraft ออกฉายทั่วโลก
- สองปีต่อมา ผู้ผลิตเกม Infocom เจ้าของเกมคอมพิวเตอร์ Zork (เกมตัวหนังสือล้วน ไม่มีภาพ) ได้สร้างเกมตัวหนังสืออ้างอิงจากบทประพันธ์ของ Lovecraftขึ้นมาชื่อ The Lurking Horror
- และกระแสที่รุนแรงที่สุดในช่วงปี 80 จะเป็นสิ่งอื่นใดไม่ได้เลยนอกจาก The Call of Cthulhu Tabletop RPG
Call of Cthulhu Tabletop RPG |
ในปี 1979 บริษัทชื่อ Chaosium เริ่มพัฒนา Tabletop RPG ในจักรวาลของ Lovecraft โดยมีสาวกที่อุทิศชีวิตให้กับ Lovecraft ชื่อ Sandy Petersen ร่วมเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาด้วย และด้วยแนวทางของ Petersen ธีมของเกมจากโลกที่จินตนาการขึ้นก็ได้เปลี่ยนมาเป็นโลกในชีวิตจริง รัฐ Massachusetts ในช่วงปี 1920 ซึ่งเป็นช่วงเวลาในบทประพันธ์ส่วนใหญ่ของ Lovecraft และจากเกมที่เหล่าตัวละครได้ร่วมผจญภัยปฎิบัติวีรกรรมดั่งฮีโร่ทั่วไป ตัวเกมก็ได้กลายเป็นความหมองเศร้า สิ้นหวัง ซึ่งตัวละครของผู้เล่นจะถูกกลืนกินทั้งเป็นหรือคุ้มคลั่งเสียสติไปเสียส่วนมาก
ผลลัพธ์ก็คือ... The Call of Cthulhu Tabletop RPG ได้กลายเป็นเกมที่ถูกขนานนามว่าออกแบบได้ยอดเยี่ยมที่สุด ดึงความสิ้นหวังออกมาจากบทประพันธ์ดั้งเดิมได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
ผู้คนมากมายหลั่งใหลเข้ามาทำความรู้จักกับ Lovecraft... แต่แน่นอนว่า สุดท้าย ความสำเร็จก็คือบทประพันธ์ของ Lovecraft เอง เพราะแม้นว่าเกมจะดีเลิศสักเพียงใด มันก็ไม่ได้ทำให้ผู้คนมาสนอกสนใจศึกษาในบทประพันธ์หากมันไม่ดีพอ
ในโลกที่ทุกอย่างสามารถล่มสลายได้ ธุรกิจไม่ว่าจะใหญ่โตสักเพียงไร โบสถ์ที่ไม่ว่าจะสูงเสียดฟ้าสักเพียงไหน ความรู้ที่เราเป็นเพียงฝุ่นธุลีในจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ธีมของ Lovecraft นั้นจึงเป็นสิ่งที่ผู้คนเข้าถึงได้และฟังดูเป็นจริงขึ้นมา เรื่องราวของภารกิจที่ค้นคว้าหาความจริง สุดท้ายก็ต้องประสบกับความเศร้าโศกสำนึกผิด สอดคล้องเข้ากับความเชื่อในสังคมว่าเทคโนโลยีกำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ควบคุมไม่ได้ การออกแบบทางชีวภาพและวิทยาการแพทย์จะทำให้เกิดหายนะ การเรียนรู้ที่มากจนเกินไปจะจบลงที่การเสียสติ
ปัญหาของตัวละครที่ปรากฎในบทประพันธ์นั้นเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่ระดับความเป็นอยู่ จุดยืนของมวลมนุษยชาติ ผลกระทบทางจิตใจที่เกิดขึ้นจากความรู้ที่ยิ่งใหญ่ในจักรวาล ไม่ได้เฉพาะเจาะจงไปในปัญหายิบย่อยหรือช่วงกาลเวลาใดๆ ด้วยเหตุนี้เองที่ตำนานของ Lovecraft นั้นเข้าถึงผู้ชมตราบหลายชั่วอายุคนและจะแพร่กระจายต่อไปในอีกนานเท่านาน
อ่านบทความตัวเต็มได้ที่ http://www.themorningnews.org/article/h.p.-lovecraft-author-is-dead